โรคมะเร็งได้แซงหน้าโรคหัวใจจนกลายมาเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับแรก
จากสาเหตุการตายทั้งหมดของคนไทยต่อเนื่องมานานกว่า 18 ปีตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นต้นมา จากข้อมูลสถิติโรคมะเร็งในปี พ.ศ. 2548 มีจํานวนผู้ป่วยมะเร็งใหม่ 98,852 คน เป็นเพศชาย 48,596 คน และเพศหญิง 50,256 คน ในปี พ.ศ. 2554 ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง 61,082 คน นับเป็นอัตราการตาย 95.2 คน
ต่อประชากรแสนคน แบ่งเป็นเพศชาย 35,437 คน เป็นเพศหญิง 25,645 คน มะเร็ง 5 อันดับแรกที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตในผู้ชายคือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลําไส้ใหญ่ มะเร็งช่องปากและคอหอย และมะเร็งเม็ดเลือดขาว ส่วนมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้หญิงไทย 5 อันดับแรกคือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลําไส้ใหญ่ ทั้งนี้มะเร็งที่เป็นปัญหาสําคัญ
5 อันดับแรกของประเทศไทย คือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูกและมะเร็งลําไส้ใหญ่ ซึ่งคิดเป็น 56.38% ของมะเร็งทั้งหมด เนื่องจากความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นตามอายุ จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าอัตราการเกิดโรคมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปีตามอายุที่ยืนยาวขึ้นของประชากร

มะเร็ง คือกลุ่มโรคที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของรหัสพันธุกรรมหรือยีนที่เริ่มต้นจากการที่ดีเอ็นเอในยีนถูกทำลายโดยสารพิษอนุมูลอิสระจนเกิดความเสียหาย ตามด้วยการถ่ายทอดรหัสพันธุกรรมที่ผิดพลาดให้แก่เซลล์รุ่นต่อๆมา การถ่ายทอดความผิดปกติที่สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้เซลล์รุ่นหลังกลายพันธุ์เป็นเนื้อร้ายได้ในที่สุด มะเร็งเป็นเซลล์ที่มีการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนแบบไร้การควบคุม สามารถรุกรานไปยังเนื้อเยื่อใกล้เคียงหรือกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆผ่านทางกระแส
เลือดหรือระบบน้ำเหลือง แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดการแบ่งตัวแบบทวีคูณของมะเร็งจะขัดขวางการทำงานของอวัยวะสำคัญจนเกิดการ
ล้มเหลวในที่สุด

โดยปกติดีเอ็นเอในแต่ละเซลล์ของคนเราจะถูกทำร้ายโดยอนุมูลอิสระได้นับหลายพันครั้งจนถึงล้านครั้งในแต่ละวัน
ถึงกระนั้นร่างกายของคนเรายังถูกออกแบบให้มีกลไกป้องกันหลายอย่างที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายและกลายพันธุ์ ตั้งแต่กระบวนการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นเองภายในเซลล์อย่างฉับพลันทันทีที่ต้องการ เช่น กลูทาไธโอนและเอ็นไซม์ที่ทำงานร่วมกับกลูทาไธโอน (glutathione peroxidases) กลไกการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่เสียหาย กลไกที่สั่งให้เซลล์ที่มีความผิดปกติจัดการสลายตัวเอง (apoptosis) เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม รวมถึงระบบภูมิคุ้มกันที่มีเม็ดเลือดขาวคอยลาดตระเวนและกำจัดเซลล์มะเร็งที่เล็ดลอดจากกระบวนการควบคุมขั้นต้น ๆ
แต่กลไกพิทักษ์เซลล์ทั้งหมดนี้จะล้มเหลวและเปิดโอกาสให้เซลล์มะเร็งก่อตัวขึ้นได้ในที่สุดหากร่างกายไม่สามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระโดยเฉพาะกลูทาไธโอนในปริมาณที่มากเพียงพอ ทั้งนี้การก่อตัวของอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมากเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่ มลพิษในสิ่งแวดล้อม รังสียูวีในแสงแดดและรังสีจากเอ็กซ์เรย์หรือแกมม่าเรย์ (ionizing radiation) ที่พบได้
ในธรรมชาติและจากเครื่องฉายแสงทางการแพทย์ การติดเชื้อ ภาวะอักเสบเรื้อรัง การออกกำลังที่หักโหมและความชรา แต่ที่สำคัญที่สุดคือพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อสุขภาพที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น การสูบหรี่ ดื่มสุรา การปล่อยให้เกิดความเครียดเรื้อรัง การบริโภคอาหารแป้ง น้ำตาลหรือไขมันในปริมาณสูงเกินควรแต่ไม่ออกกำลังกายจนนำไปสู่การมีน้ำหนักตัวเกิน การรับประทานผักผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระน้อยเกินควร ล่าสุดมีการวิจัยที่พบว่าการรับประทานอาหารประเภทสัตว์เนื้อแดงและอาหารเนื้อสัตว์แปรรูป(เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน) มากเป็นประจำสามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งได้

คุณประโยชน์ของการเพิ่มระดับกลูทาไธโอนเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง (1)
1. ป้องกันการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง
การศึกษาวิจัยทางการแพทย์พบว่าการที่ระดับกลูทาไธโอนและกรดอะมิโนซีสเตอีนซึ่งเป็นสารตั้งต้นที่สำคัญที่สุดของการสร้าง
กลูทาไธโอนลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นอาจมีผลต่ออัตราเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งที่สูงขึ้นได้ โดยผู้ที่มีภาวะกลูทาไธโอนบกพร่องพบว่ามีความเสี่ยงกับการเป็นมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งหลอดอาหาร(2) มะเร็งลำไส้ใหญ่(3) และมะเร็งตับ(4)ในอัตราที่สูงกว่าคนที่มี
ระดับกลูทาไธโอนปกติ การศึกษาวิจัยพยาธิวิทยาของมะเร็งปากมดลูกยังพบว่าภาวะเครียดจากอ็อกซิเดชั่นหรือการเกิดอนุมูลอิสระจำนวนมากเกินการควบคุมเป็นปัจจัยร่วมที่เอื้อหนุนให้ไวรัส HPV ก่อการกลายพันธุ์ของยีนจนส่งผลให้เซลล์ปากมดลูกเกิดลักษณะผิดปกติขั้นแรกๆ (dysplasia) ซึ่งเป็นภาวะที่เสี่ยงต่อการพัฒนาจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้(5)

การรักษากลูทาไธโอนในร่างกายให้คงอยู่ในระดับสูงจะช่วยปกป้องเซลล์ของร่างกายและลดความเสี่ยงจากการเกิดมะเร็งได้เนื่องจากบทบาทในการพิทักษ์เซลล์ดังต่อไปนี้
  • ต้านอนุมูลอิสระ
    กลูทาไธโอนช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากในร่างกายได้อย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันและจำกัดความเสียหายที่เกิดกับชีวโมเลกุลต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยพันธุกรรมดีเอ็นเอและยีนหลายชนิดที่ทำหน้าที่ช่วยระงับการเกิดมะเร็ง นอกจากนี้กลูทาไธโอนยังช่วยรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ เช่น วิตามินซี & อี เพื่อช่วยยืดอายุการทำงานให้สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้คงประสิทธิภาพการทำงานได้ยาวนานขี้น ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงขนามกลูทาไธโอนว่าเป็น”แม่ทัพของสารต้านอนุมูลอิสระ” หรือ The Master Antioxidant
  • ซ่อมแซมและสั่งเซลล์ที่ผิดปกติให้สลายตัว
    กลูทาไธโอนยังช่วยควบคุมกระบวนการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่เกิดความเสียหายและช่วยควบคุมกระบวนการส่งสัญญาณให้เซลล์ที่ผิดปกติสลายตัว (p53 protein expression) ก่อนที่จะกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็ง
  • กำจัดสารพิษ
    ตับและไตจำเป็นใช้กลูทาไธโอนจำนวนมากในการขับสารพิษออกจากร่างกาย (ผ่านกระบวนการเอ็นไซม์ cytochrome P450) โดยกลูทาไธโอนจะจับตัวกับสารพิษก่อมะเร็งหลากหลายชนิด เช่น สารเคมีในยาฆ่าแมลงควันบุหรี่และท่อไอเสีย
    สารไฮโดรคาร์บอนที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ซัลเฟตในอนุพันธุ์จากน้ำมัน โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท แคดเมื่ยม สารหนู สารพิษในอาหาร เช่น อาฟลาท็อกซินจากราบน
    ถั่วลิสง เบ็นโซไพรีนในอาหารประเภทปิ้ง ย่าง สารกันบูดไนโตรซามีนที่ใช้ยืดอายุอาหารเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อสลายความเป็นพิษและเปลี่ยนสารเหล่านี้ให้ละลายได้ในน้ำ เพื่อขับออกจากร่างกายทางน้ำดีและปัสสาวะ
  • เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง
    เนื่องจากกลูทาไธโอนมีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดขาวและประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว การรักษาระดับ
    กลูทาไธโอนให้สูงไว้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกันในการกำจัดเซลล์มะเร็ง เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ทั้งนี้ผลสรุปจากการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ยังยืนยันว่าเชื้อไวรัส HPV ไวรัสตับอักเสบบีและซี และแบคทีเรีย H. Pylori เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูก/มะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์/มะเร็งลำคอและโคนลิ้น มะเร็งตับ และมะเร็งกระเพาะอาหาร ได้ตามลำดับ
  • เมื่อไม่นานมานี้ การวิจัยผู้ป่วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่พบว่าระดับกลูทาไธโอนภายในเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการแทรกตัวของเม็ดเลือดขาวชนิด T-cell เข้าไปในเซลล์มะเร็งและอัตราการอยู่รอดของผู้ป่วยมะเร็ง(6)

    2. ฟื้นฟูร่างกายและลดผลข้างเคียงจากเคมีและรังสีบำบัด
    ทีมนักวิจัยแพทย์พบว่าการเพิ่มระดับกลูทาไธโอนให้ผู้ป่วยมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ และผู้ป่วยมะเร็งเด็กโดยการฉีดกลูทาไธโอนเข้าทางเส้นเลือดดำหรือรับประทานเวย์โปรตีนที่อุดมด้วยกรดอะมิโนซีสเตอีนสารตั้งต้นในการสร้าง
    กลูทาไธโอนสามารถช่วยลดผลข้างเคียงจากความเป็นพิษของเคมีหรือรังสีบำบัด ป้องกันการสูญเสียกล้ามเนื้อและน้ำหนักตัว ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดี
    กว่านอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถรับการรักษาได้ต่อเนื่องและมีแนวโน้มตอบสนองต่อการบำบัดได้ดีขึ้น(7,8,9,10)

    การศึกษาวิจัยผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งบริเวณโคนลิ้นพบว่า การกลับคืนสู่ระดับปกติของสมดุลสารต้านอนุมูลอิสระและอนุมูลอิสระหลังจบคอร์สการบำบัดด้วยเคมีและรังสีมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลตอบสนองต่อการรักษา ทั้งนี้การตรวจวัดค่าสารต้านอนุมูลอิสระและอนุมูลอิสระในเลือดของผู้ป่วยมะเร็งที่โคนลิ้นก่อนรับการรักษาพบว่ามีความบกพร่องอย่างมากเมื่อเทียบกับระดับในคนปกติ แต่ภายหลังการบำบัดปรากฏว่าผู้ป่วยที่มีการตอบสนองต่อการบำบัดต้านมะเร็งอย่างดีเยี่ยม (complete responders) คือผู้ที่มีภาวะการฟื้นตัวของสารต้านอนุมูลอิสระและการลดลงของอนุมูลอิสระอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีการตอบสนองน้อยหรือไม่ตอบสนองต่อการบำบัดโดยสิ้นเชิง (partial/nonresponders) (11)

    1. Jimmy Gutman, MD. FACEP. Glutathione Your Key to Health
    2. Sihvo EI. et al. Simultaneous progression of oxidative stress and angiogenesis in malignant transformation of Barrett
        esophagus. J Thorac Cardiovasc Surg. 2003 Dec; 126(6):1952-7.
    3. Grubben MJ. et al. Low colonic glutathione detoxification capacity in patients at risk for colon cancer. Eur J Clin
        Invest. 2006 Mar;36(3):188-92.
    4. Lee KT. et al. Glutathione status in the blood and tissues of patients with virus-originated hepatocellular carcinoma.
        Clin Biochem. 2007 Oct;40(15):1157-62.
    5. De Marco F. Oxidative stress and HPV carcinogenesis. Viruses. 2013 Feb 12;5(2):708-31.
    6. Uno K. Pre-operative intracellular glutathione levels of peripheral monocytes as a biomarker to predict survival of
        colorectal cancer patients. Cancer Immunol Immunother. 2010 Oct;59(10):1457-65.
    7. Pirovano C. et al. Peripheral neurotoxicity following high-dose cisplatin with glutathione: clinical and
        neurophysiological assessment. Tumori. 1992 Aug 31;78(4):253-7.
    8. Smyth JF. et al. Glutathione reduces the toxicity and improves quality of life of women diagnosed with ovarian cancer
        treated with cisplatin: results of a double-blind, randomised trial. Ann Oncol. 1997 Jun;8(6):569-73.
    9. Schmidinger M. et al. Glutathione in the prevention of cisplatin induced toxicities. A prospectively randomized pilot
        trial in patients with head and neck cancer and non small cell lung cancer. Wien Klin Wochenschr. 2000 Jul 28;112
        (14):617-23.
    10. Droge W. et al. Cysteine-Rich Protein Reverses Weight Loss in Lung Cancer Patients Receiving Chemotherapy or
        Radiotherapy. Antioxid Redox Signal. 2008 Feb;10(2):395-402.
    11. Sharma M. An imbalance in oxidant/antioxidant dynamics: correlation with therapeutic response in patients with
        carcinoma of posterior one third of the tongue. Oncol Res. 2011;19(7):365-73.

    HMS 90®

    เวย์โปรตีนไอโซเลต
    อุดมซีสเตอีนคุณค่าชีวภาพสูง
    เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
    เพิ่มระดับกลูทาไธโอน

    สนใจสอบถามหรือสั่งซื้อสินค้า

    Line ID : @HMS90_OFFICIAL (มี@นำหน้า)

    Contact Details

    บริษัท อิมมูโนไทย จำกัด245/4 ถ.สุขุมวิท 21 (อโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110092-696-6925